วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2563

ชาวบ้านฮือฮา วัดเก่าที่จมน้ำ โผล่ขึ้นมาให้เห็นเป็นครั้งแรก

Cover Photo by SPiRiTiO

จากกรณีที่ผู้ใช้ facebook รายหนึ่งใน ต. ชุมแสง อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ได้โพสต์ภาพเกี่ยวกับการค้นพบ ชุมชนวัดเก่าที่จมอยู่ใต้น้ำในอ่างเก็บน้ำประแสร์ จ.ระยอง มานานหลายปีแล้ว แต่ในปีนี้ได้โผล่ขึ้นมาให้เห็นอีกครั้ง หลังจากที่ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ได้ลดลงอย่างมากกว่าทุกปี ซึ่งส่งผลให้น้ำลดลงจนเห็นชุมชนวัดเก่า สมัยที่ยังไม่ได้ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ โผล่พ้นน้ำขึ้นมา ได้สร้างความฮือฮาให้แก่ชาวบ้านที่พบเห็น และยังบอกกันปากต่อปาก จนทำให้มีคนเข้ามาเยี่ยมชมอย่างไม่ขาดสายตั้งแต่เช้ายันค่ำ

Photo by SPiRiTiO

โดยในอดีตจากการที่ผู้เขียนสอบถามจากชาวบ้านละแวกนั้น อ่างเก็บน้ำประแสร์แห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2543 และแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2550 จุดประสงค์ก็เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในภาคการอุตสาหกรรม การเพาะปลูก การประปา อุปโภค บริโภคต่าง ๆ แต่ก่อนที่จะมีการสร้างอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ ก่อนหน้านั้นภายในอ่างเก็บน้ำ ได้เป็นชุมชนที่อยู่อาศัยมาก่อน ๆ ที่จะทำการเวนคืน เพื่อนำมาใช้สร้างอ่างเก็บน้ำแห่งนี้นั่นเองครับ

Photo by SPiRiTiO

หลังจากที่ผู้เขียนลงพื้นที่ไปสำรวจ พบว่า มีประชาชนจำนวนมากต่างทยอยกันเดินทางมาเยี่ยมชมยังจุดเมืองเก่าแห่งนี้ จนกลายเป็นกระแสในโลกโซเชียล บ้างก็เดินทางมาเพื่อเยี่ยมชม ดูความสวยงามของซากปรักหักพังที่มีความงดงามในตัวของมันเอง พร้อมกับเรื่องราวความหลังต่าง ๆ ของจุดเมืองเก่าแห่งนี้ให้ได้ยินได้ฟังจากคนในพื้นที่ บ้างก็เดินทางมาหาขอหวย ขอโชคลาภเพราะเชื่อว่าจุดนี้เป็นวัดเก่าที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมา ย่อมให้โชคดีแก่ผู้มาเยี่ยมเยือนเป็นแน่แท้

Photo by SPiRiTiO

และจากที่ผู้เขียนได้เดินดูในละแวกใกล้เคียงยังพบว่า มีเศษซากปรักหักพังของอาคารโรงเรียน วัด อนามัยเก่า กระจายอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ อยู่มากมาย ทั้งถนนลาดยางที่เคยจมน้ำมานาน แต่ก็ยังคงอยู่ในสภาพที่รถยนต์ยังสามารถวิ่งสัญจรไปมาได้ รอยแตกระแหงของพื้นดินหลังจากที่น้ำแห้งลงไปก็ดูสวยไปอีกแบบ ทิวทัศน์รอบ ๆ ชุมชนเมืองเก่าแห่งนี้ก็ดูสวยแปลกตา เหมือนลงมายังนครใต้น้ำยังไงยังงั้น

Photo by SPiRiTiO

จากคำบอกเล่าของคนในพื้นที่บอกว่า น้ำเริ่มลดระดับลงได้ 4-5 เดือนแล้วและยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง และไม่เคยลดจนเห็นชุมชนวัดเก่าขนาดนี้จากสถานการณ์ที่น้ำในอ่างลดลงมากในปีนี้ ส่งสัญญาณเตือนให้เรารู้ว่าปีนี้ภัยแล้งอาจจะมาเร็วกว่าที่คิด บวกกับตอนนี้อากาศก็ร้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ จนแทบจะทะลุองศาไปแล้ว แต่อาจจะมีข้อดีเกิดขึ้น เพราะว่าชุมชนเมืองเก่าแห่งนี้ อาจจะกลายเป็นจุดแลนด์มาร์กแห่งใหม่ที่สวยงามของอ่างเก็บน้ำประแสร์ ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชม จนอาจจะสร้างรายได้ให้ชาวบ้านละแวกนั้นมีกินมีใช้ขึ้นมาครับ

Photo by SPiRiTiO

ถ้าใครอยากจะแวะมาเที่ยว หรือเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ ก็มาได้แบบไม่ยากครับ ถ้าเดินทางมาจากกรุงเทพฯ แค่วิ่งรถมาบนถนนบ้านบึง-แกลง สาย 344 เลี้ยวซ้ายที่สี่แยกไฟแดงวังจันทร์ ปักหมุดไปที่วัดเขาโอภาส ขับไปตามถนนหมายเลข 5002 แล้วคอยถามทางจากชาวบ้านละแวกนั้นก็จะรู้จุดที่ชุมชนวัดเก่าตั้งอยู่ครับ เพราะบางทีเข้าป่าเข้าดง GPS ก็เชื่อไม่ได้ครับ ต้องรีบมานะครับ เพราะโอกาสที่จะได้เห็นแบบนี้มีไม่บ่อย ก่อนที่น้ำจะกลับมาท่วมทับเมืองแห่งนี้อีกครั้ง หลังจากที่หน้าฝนมาถึงในคราวหน้า

จุดเสี่ยงโควิด-19 ในที่ทำงาน

Photo Cover by Miguel Á. Padriñánfrom Pexels

ตอนนี้ไวรัสโควิดกำลังระบาดอย่างหนัก ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ และมีทีท่าว่าจะเข้ามาใกล้เราทุกที ๆ จนเราต้องหาหนทางป้องกันตัวเอง แต่ถึงจะเสี่ยงแค่ไหน เราก็ยังต้องทำงานต่อไปไม่งั้นจะมีเงินที่ไหนไปใช้จ่ายล่ะ เราหยุดแต่หนี้ไม่หยุดให้เรา สำหรับใครที่จำเป็นต้องไปทำงานในช่วงนี้ ก็อยากจะมาเตือนกันครับว่า ภายในที่ ๆ เราทำงานอยู่จะมีตรงจุดไหนบ้างที่เป็นอันตรายเสี่ยงกับการติดเชื้อ โควิด-19 มากที่สุด มาดูกันครับ จะได้ระมัดระวังตัวมากขึ้น

Photo by victor217 from freepik

1. จุดสแกนบัตร เป็นจุดแรก ๆ เลยที่ทุกคนต้องเจอก่อนเข้าทำงานคือจุดสแกนบัตรนี่แหละครับ คงจะไม่เสี่ยงอะไร ถ้าบางที่ใช้วิธีการตอกบัตรเอา แต่บางพื้นที่หรือเกือบจะทั้งหมด ใช้ระบบสแกนลายนิ้วมือพร้อมกับแตะบัตรในการเข้าทำงาน เพราะฉะนั้นทุกคนต้องผ่านจุด ๆ นี้และต้องได้สัมผัสกันทุกคน นิ้วของทุกคนต้องมารวมกันในเครื่อง ๆ เดียว แค่คิดก็มันแล้วครับ

แนวทางในการป้องกัน : สำหรับบริษัทที่เล็งเห็นถึงความเสี่ยงตรงจุดนี้ ควรจะพิจารณายกเลิกการสแกนนิ้วในช่วงนี้ไปก่อน ให้ใช้การสแกนบัตรอย่างเดียวครับ

Photo by mrsiraphol from freepik

2. โรงอาหาร เป็นจุดศูนย์รวมที่ทุกคนต้องมาช่วงพักเที่ยง บางคนอาจจะออกไปกินข้าวข้างนอกก็อาจจะรอดไป แต่ไม่แน่นอนนะครับ บางทีข้างนอกอาจจะเยอะกว่า ที่ว่าเสี่ยงก็คือ ทุกคนต้องใช้จาน ช้อน แก้วน้ำ รวมกันทั้งหมด ถึงแม้จะล้างแล้วก็เถอะจะมั่นใจได้แค่ไหน บางร้านอาจล้างแบบลวก ๆ ก็ได้ใครจะไปรู้ เพราะคนมันเยอะ ไม่มีเวลามาพิถีพิถันเท่าไหร่ ถ้าเป็นในเหตุการณ์ปกติเราก็อาจไม่เป็นอันตรายอะไร แต่ในภาวะที่มีโรคระบาดอยู่ในตอนนี้ก็ต้องชั่งใจกันหน่อยครับ

แนวทางในการป้องกัน : เปลี่ยนนโยบายให้ใช้จาน ชาม แบบกระดาษแข็ง และนำช้อนมาใช้เองส่วนตัว หรือจะเอามาทั้งหมดเลยก็ได้ อย่างน้อยก็แค่ช่วงนี้ปลอดภัยไว้ก่อน ลำบากหน่อยแต่เพื่อความปลอดภัยครับ

Photo by tpsdave from pixabay

3. ห้องประชุม เป็นที่ ๆ อันตรายและศูนย์รวมเชื้อโรคเยอะที่สุดก็ว่าได้ เพราะห้องประชุมส่วนมากจะเป็นห้องแอร์ ที่ไม่มีอากาศถ่ายเท รวมถึงออฟฟิศต่าง ๆ ถ้าไม่มีการฆ่าเชื้อให้ดี เจ้าไวรัสตัวร้ายก็จะกระจายลอยตัวอยู่ในห้องนั่นแหละครับ ลองถ้ามีใครสักคนจามขึ้นมาเพียงแค่เป็นหวัดธรรมดา ก็อาจจะพาลติดกันทั้งออฟฟิศ ทางที่ดีช่วงนี้ถ้าจะประชุมอะไร เอาแบบกลางแจ้งหรือที่ร่ม ๆ ด้านนอกจะดีกว่านะครับ ปลอดภัยไว้ก่อน

แนวทางในการป้องกัน ใช้กฏ social distancing ในที่ทำงาน เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลไว้ครับ เช่นจากที่นั่งรวมกันเยอะ ๆ ก็กำหนดไปว่า 1 โต๊ะนั่งแค่ 3 คน และสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่เข้าห้องประชุม

Photo by SPiRiTiO

4. ที่ดื่มน้ำ ทำไมที่ดื่มน้ำต้องเสี่ยงด้วยล่ะ ในเมื่อเราก็ใช้แก้วใครแก้วมัน ไม่ได้ใช้แก้วรวมกันซักหน่อย ครับอันนั้นไม่เถียง และส่วนมากบริษัทหลายที่ก็เล็งเห็นความเสี่ยงนี้เหมือนกันก็เลยซื้อแก้วกระดาษแบบใช้แล้วทิ้งให้พนักงานใช้ แต่เชื้อโรคมันไม่ได้อยู่ที่แก้วน่ะสิครับ ตรงที่ ๆ เราใช้มือไปกดน้ำนั้นแหละครับ เป็นตัวแพร่เชื้อไวรัสอย่างดี มือทุกคนต้องเอื้อมมากดน้ำอยู่แล้ว 100% ไม่มีใครใช้หลังกดน้ำหรอกมั้ง อันนั้นมันจะแปลกไป ตรงที่กดน้ำเลยกลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อชั้นดีที่เราเองก็คาดไม่ถึง แต่ถ้าบริษัทไหนเป็นแบบใช้แก้วดัน ความเสี่ยงก็น้อยลงครับ

แนวทางในการป้องกัน เปลี่ยนที่กดน้ำให้เป็นแบบใช้แก้วดันทั้งหมด และนำแก้วมาใช้เองส่วนตัว ไม่ใช้ร่วมกับผู้อื่น

Photo by Free-Photos from pixabay

5. เม้าส์ และ คีย์บอร์ด เนื่องจากคอมพิวเตอร์เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องใช้งานในออฟฟิศ ถึงจะเป็นคอมพิวเตอร์ส่วนตัวแต่ใครก็สามารถมาหยิบมาจับได้ในระหว่างที่เราไม่อยู่ ซึ่งเราก็ไม่อาจรู้ได้ แล้วเราก็มาใช้งานต่อ ถือว่ามีความเสี่ยงสูงโดยเฉพาะ เม้าส์ ถ้าใครที่ติดเชื้อไวรัสมาจับรับรองได้เลยว่าคุณติดแน่นอนครับ

แนวทางในการป้องกัน เช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์ทุกครั้งทั้งก่อนใช้และหลังใช้ และอย่าลืมใช้สเปรย์ฆ่าเชื้อหรือล้างมือทุกครั้งหลังใช้งาน

ครับยังไงก็ต้องป้องกันตัวเองไว้ก่อน ๆ จะสายเกินกาล พกหน้ากาก พกสเปรย์ฆ่าเชื้อไว้ล้างมือติดตัวไว้ อย่าประมาทเป็นดีที่สุด เพราะเราไม่สามารถมองเห็นตัวมันได้ ถ้าเป็นยุงเรายังตบมันได้เวลาโดนกัดขึ้นมา แต่นี่คือเชื้อไวรัสที่เรามองไม่เห็น แถมมันร้ายยิ่งกว่ายุงซะอีก ยังไงก็ต้องระวังไว้นะครับสำหรับคนทำงานที่ต้องอยู่กับคนหมู่มาก รู้ว่าตรงไหนเสี่ยง ก็ต้องป้องกันตัวเองครับ วันนี้กระผมนาย SPiRiTiO ขอตัวก่อน พบกันใหม่บทความหน้าครับ

วันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2563

โควิด-19 กับผลกระทบในชีวิตประจำวัน

Photo Cover by cottonbro from Pexels

ตอนนี้กระแสเกี่ยวกับไวรัส Covid-19 เริ่มใกล้ตัวเราเข้ามาทุกวัน ทั้งการรายงานข่าวทางทีวี ไม่เว้นแม้กระทั่งช่องทาง social ช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ก็มีให้ตามติดสถานการณ์กันอย่างใกล้ชิด เรียกว่าเป็นประเด็นข่าวใหญ่ที่ผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะเป็นโรคร้ายแรงที่ยังไม่มียารักษา เลยทำให้ผู้คนหวาดกลัวและตระหนักถึงอันตรายของไวรัสชนิดนี้กว่าทุกโรคที่ผ่านมา

Photo by jcomp from freepik

ขนาดที่ทางรัฐบาลต้องประกาศให้เลื่อนวันหยุดสงกรานต์ในปี 2563 ไปแบบไม่มีกำหนด นั่นแสดงว่าเป็นภาวะฉุกเฉินเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับ Covid-19 ที่อาจจะระบาดหนักอีกครั้งถ้ามีกลุ่มคนมารวมตัวกันทำกิจกรรมเยอะ ๆ เพราะคนต่างจังหวัดที่ทำงานในเมืองกรุง จะใช้โอกาสช่วงสงกรานต์นี้ กลับบ้านไปหาพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย หรือคนที่ตัวเองรัก บางคนกลับไปกินเลี้ยงสังสรรค์กัน สูบบุหรี่มวนเดียวกัน น้ำแก้วเดียวกัน กินร้อนช้อนกลางอาจจะใช้ไม่ได้ในยุคนี้ ต้องเปลี่ยนเป็น กินร้อนช้อนใครช้อนมันแทน ทำให้ในปีนี้ทุกคนจะไม่ได้กลับบ้านไปพบครอบครัวเหมือนอย่างเคย ถ้าบริษัทไหนให้กลับก็มีมาตรการต่ออีกว่า ต้องไปตรวจโรคก่อน ถ้าพบมีไข้ก็จะให้กักตัว 14 วันเป็นต้น

Photo by freepik from freepik

แม้กระทั่งคนที่ทำงานอยู่ ภายในบริษัทยังมีนโยบายใหม่ให้พนักงาน ต้องวัดไข้ก่อนเข้าทำงานทุกวัน เพื่อคัดกรองผู้ป่วยออก ใครมีไข้ให้กลับบ้านลาป่วยได้เลย ทำให้พนักงานคนนั้นสูญเสียรายได้ไปอย่างน่าเสียดาย จากได้ค่าแรงเต็มก็ได้แค่ 75% เท่านั้น แถมถ้าหายป่วยกลับมา ถึงแม้ผลการวินิจฉัยจะไม่ได้เป็น Covid-19 ก็ตามแต่เพื่อน ๆ ก็ยังไม่วางใจเราเหมือนเดิม และยังใช้วิธีอยู่ห่างจากเราไม่เข้าใกล้เกินระยะ 1 เมตร อีกต่างหาก ซึ่งจะไปโทษเพื่อนก็ไม่ได้ครับ ใคร ๆ ก็รักตัวกลัวตายกันทั้งนั้น แต่ทำให้การเข้าสังคมของเรามันหยุดลงเท่านั้นเอง

Photo by jcomp from freepik

ล่าสุดมีการประกาศให้ปิดตลาดสด อันนี้ส่งผลกระทบมาก ๆ กับหลาย ๆ คนเลย ทั้งคนซื้อและคนขาย ตกเย็นมาเราก็ต้องออกเดินตลาดใกล้บ้านหากับข้าวมารับประทานตอนเย็น แต่พอมีการปิดตลาดไม่ให้ขาย ก็เพิ่มภาระเราขึ้นมาทันที เพราะต้องเดินทางไปซื้อของในเมืองแทน ซึ่งไกลจากเดิมมาก เปลืองทั้งน้ำมัน ทั้งเวลา ด้านพ่อค้าแม่ค้าซึ่งบางคนประกอบอาชีพค้าขายเป็นหลัก ก็เกิดการสูญเสียรายได้ขึ้นมา แล้วจะทำยังไงละทีนี้ขายของก็ไม่ได้แล้วจะดำเนินชีวิตต่อยังไง

พอมันมีโรคระบาดก็เกิดการกักตุนสินค้า เพราะกำลังการผลิตลดลง ที่ไหนมีโรคที่นั่นปิด ไม่มีการผลิตสินค้าเพิ่ม หลายคนตกงาน ต้องวิ่งเต้นหางานใหม่ พ่อค้าแม่ค้าหัวไสบางคนก็ใช้โอกาสนี้โก่งราคาสินค้าขึ้นมา ของแพงขึ้น แต่จำเป็นต้องซื้อเพราะของหายากและเป็นปัจจัยพื้นฐานที่เราต้องใช้อยู่ทุกวัน คนก็เป็นโรคหวาดระแวงว่า เราจะติดเชื้อหรือเปล่า พอมีไข้นิด ๆ หน่อย ๆ ก็วิ่งโร่ไปหาหมอทันที เกิดความวิตกกังวล กลัวคนรอบข้างติดเชื้อ ไม่ไว้ใจใครเลย จากเคยกินน้ำขวดใส่น้ำแข็ง กาแฟเย็น น้ำปั่น ก็งดการกิน เพราะกลัวว่าจะไม่สะอาด ทั้ง ๆ ที่แต่ก่อนก็กินได้ปกติ

Photo by rebcenter-moscow from pixabay

ส่วนการท่องเที่ยวไม่ต้องพูดถึง โรงแรม ที่พัก ร้านอาหารบางเจ้าก็อยู่ไม่ได้ เพราะไม่มีคนมาเที่ยวทุกคนระวังตัวกันทั้งนั้น สินค้าขายไม่ได้ เคยมีทัวร์มาลง ก็ไม่มีเหมือนแต่ก่อน ยิ่งรัฐบาลประกาศให้สถานที่บางประเภทต้องปิดเป็นการชั่วคราว เท่าที่อ่านดูร้านตัดผมยังปิด แล้วผมจะไปตัดผมที่ไหน ต้องซื้อกรรไกรมาคอยตัดเองล่ะมั้งงานนี้ เมื่อไม่มีคนเที่ยวก็ไม่มีรายได้ บางแห่งต้องเลิกจ้างคน คัดคนออกไป

นี่เป็นแค่ส่วนน้อยนะครับที่ได้รับผลกระทบจากโรค Covid-19 ยังมีอีกเยอะสาธยายไม่หมด ผมมาลองคิดดูเล่น ๆ นะครับ ถ้าเกิดว่า Covid-19 เป็นอาวุธชีวภาพ ก็ถือว่าเป็นอาวุธที่สร้างมาเพื่อทำลายเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ ได้อย่างทรงพลังที่สุด ยิ่งกว่าอาวุธนิวเคลียร์ซะอีก แต่ยังไงเราก็ต้องยืนหยัดสู้ต่อไป ไม่ยอมแพ้ ได้รับผลกระทบมากขนาดนี้ก็อย่าเพิ่งท้อใจไป ถ้าเราช่วยกันเจ้าไวรัสชนิดนี้อาจจะอยู่กับเราไม่นานครับ

วันอังคารที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2563

สายแชะ เที่ยวโบสถ์สีน้ำเงิน ไหว้พระ เช็คอิน กันเถอะ

ถ้าหากวันนี้คุณว่าง ยังไม่รู้จะไปเที่ยวเช็คอินที่ไหนใกล้ๆกรุงเทพฯ วันนี้ SPiRiTiO ขอพาสายบุญทั้งหลายมาเที่ยววัดไหว้พระขอพรกันที่ วัดปากน้ำแขมหนู จ.จันทบุรี โดยโบสถ์แห่งนี้มีความพิเศษตรงที่มีสีน้ำเงินทั้งหลัง ครั้งแรกที่ดูรีวิวในเน็ต ก็ว่าสวยแล้ว พอมาดูด้วยตาตัวเอง โอ้โฮ!แม่เจ้า มันช่างสวยงาม อลังการงานสร้างเสียนี่กระไร เป็นโบสถ์เซรามิกทั้งหลัง เหมาะแก่การมาถ่ายรูปสวยๆเก็บไว้ดู มีมุมสวยๆให้ได้แชะเก็บความประทับใจมากมาย

ส่วนด้านหน้าภายในบริเวณวัด ยังมีมุมนั่งร้านกาแฟเก๋ๆเอาไว้ถ่ายเซลฟี่กันอีกด้วย การเดินทางมาวัดก็ไม่ได้ลำบากอะไร เปิดจีพีเอสแป้บเดียวถึง วัดปากน้ำแขมหนูแห่งนี้น่าจะเป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่ ที่มีความสวยงามของสถาปัตยกรรม ให้ได้ชมกัน

สำหรับใครที่เบื่อเที่ยวทะเล อยากจะเที่ยววัดขอพรบ้างผมก็ขอแนะนำที่วัดปากน้ำแขมหนูแห่งนี้ มาชมความงามของวัดสีน้ำเงิน แห่งเดียวในไทยอยากให้แวะมาเที่ยวกันครับ ถ้ากลัวหลงทางพี่จีช่วยได้ครับ 555

ปัจจุบันวัดมีการสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้วทั้งหลัง ทำให้มีความสวยงามสะดุดตาแก่นักท่องเที่ยวมากจนโด่งดังในโลกโซเชี่ยล หลังจากที่คุณขับรถเข้ามาสิ่งที่จะเห็นเป็นสิ่งแรกคือ โบสถ์สีน้ำเงินที่ตั้งตระหง่านอยู่ เป็นจุดเด่น และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ของวัดปากน้ำแขมหนูแห่งนี้ ถือว่าเป็นจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจแห่งหนึ่งใน จ.จันทบุรี ที่ทุกคนควรลองมาสัมผัสสักครั้งในชีวิตครับ อิ่มเอมกับบุญแล้ว ก็ยังได้อิ่มเอมกับความสวยงามของวัด ถือว่าได้กำไรถึงสองต่อเลยนะครับ

สถานแสดงพันธ์ุสัตว์น้ำระยอง ต้องมาฮิ

ถ้าใครที่มาเที่ยวระยอง บ้านเพ หลังจากที่เที่ยวทะเลชิมอาหารซีฟู้ดกันจนอิ่มแล้ว ยังมีแลนด์มาร์คอีกแห่งที่พลาดไม่ได้เลยครับ นั่นก็คือ สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำระยอง ที่ดูแลโดยศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงอ่าวไทยฝั่งตะวันออก(ระยอง)เปิดให้นักท่องเที่ยว นักศึกษา และประชาชนโดยทั่วไป โดยเฉพาะเด็กๆ เข้าเยี่ยมชม ภายในสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ยังมีสัตว์น้ำหลากหลายประเภท หลากหลายชนิดให้ได้ศึกษาค้นคว้าหาความรู้ ถามว่าเสียค่าเข้ามั้ย ตอบเลยครับว่า "เสีย" 555 แต่อย่าไปคิดอะไรมาก ถือซะว่าช่วยสมทบทุนค่าบำรุงรักษาสถานที่ครับ

เครดิตภาพถ่ายโดย SPiRiTiO

สำหรับใครที่เดินทางมาจากกรุงเทพ จะใช้เวลาขับรถประมาณ 3 ชั่วโมง ก็จะถึงจุดหมายปลายทาง ระยะทางประมาณ 200 กม.ถือว่าไม่ไกลมากถ้าเทียบกับ เชียงใหม่ 555 จะเอาฮาไปไหน เวลาเปิดทำการ วันพุธ-วันศุกร์ เวลา 10.00-16.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00-17.00 น. ส่วนค่าเข้าชม เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี 10 บาท สูงไม่เกิน 120 ซม.เข้าชมฟรี ใครสูงๆก็เดินย่อๆหน่อยท่าจะได้นะครับ ส่วนผู้ใหญ่จะอยู่ที่ราคา 30 บาท โดยประมาณ ส่วนผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไปเข้าชมฟรีครับ ใครรู้ตัวว่าแก่ไม่ต้องพกตังค์ไปครับ 555

เครดิตภาพถ่ายโดย SPiRiTiO

ภายในก็จะมีการแบ่งเป็นโซนๆ มีบ่อขนาดใหญ่จำลองระบบนิเวศใต้น้ำให้ได้ดู มีปลาทะเลขนาดใหญ่หลายชนิด เช่นปลากะเบน ปลากะพง ปะการังชนิดต่างๆ แต่ที่ตื่นเต้นสุดๆน่าจะเป็น เต่านี่แหละ ตัวใหญ่และมีหลายตัวมาก ส่วนไฮไลท์เด่นๆเลยก็คือ บ่ออุโมงค์ขนาดใหญ่มีปลาแหวกว่ายอยู่บนหัวให้เราเดินลอดเพื่อถ่ายรูป สำหรับใครที่เคยมาครั้งแรก จะรู้สึกเลยว่า มันอะเมซิ่งมากๆครับ ถ่ายรูปก็สวย เพราะแสงสีมันลงตัว รับรองว่าได้รูปกลับบ้านกันเยอะแน่นอน

เครดิตภาพถ่ายโดย SPiRiTiO

ส่วนโซนนิทรรศการ จะมีการแสดง อุปกรณ์ประมงพื้นบ้าน แบบจำลองเรือประมง ให้ได้ชมกันมากมาย แบบจำลองสัตว์ทะเลต่างๆ รวมทั้งแบบที่ใกล้จะสูญพันธ์ุ ก็จำลองไว้ให้ดูและศึกษารวมทั้งยังมีนิทรรศการโครงการฟื้นฟูชายฝั่งทะเล ตามพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมมราชินีนาถ ให้นักศึกษาและประชาชนผู้สนใจเข้าเรียนรู้ได้ใกล้ชิด ปิดท้ายด้วยใครที่ชอบหอยทะเลก็ยังมี พิพิธภัณฑ์เปลือกหอย จัดแสดงในตู้ ให้ได้ชมกันมากมาย ถือว่าการพาเด็กมาเที่ยวในครั้งนี้ นอกจากจะได้ความรู้แล้ว ก็ยังได้ความสนุก ตื่นเต้นที่ได้เห็นสัตว์น้ำชนิดต่างๆแบบใกล้ชิด แบบที่ไม่เหมือนในทีวี สำหรับเด็กๆแล้วนี่ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ที่จะต้องร้องว้าวเลยทีเดียว

เครดิตภาพถ่ายโดย SPiRiTiO

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่วันหยุดนี้ยังไม่มีแพลนจะพาลูกๆไปเที่ยวที่ไหนดี แนะนำให้พาลูกๆมาดูสัตว์ทะเลที่นี่ได้ครับ ส่วนบทความหน้า กระผมนาย SPiRiTiO จะพาทุกคนไปเที่ยวกันที่ไหน ต้องรอติดตามครับ วันนี้ บ้ายบาย

ทำวุ้นมะพร้าวกินแบบบ้าน ๆ

ใกล้จะถึงหน้าร้อนเข้ามาทุกที อากาศก็เริ่มจะระอุขึ้นมาทุกขณะแล้วพี่น้องเอ๊ย!! นี่แค่เดือนกุมพาพันธ์เองนะ แต่อากาศเหมือนกลางเมษาซะงั้น ลองเปิดประตูตู้เย็นดู คิดว่าจะหาอะไรมาคลายร้อนซะหน่อย ก็เจอแต่ขวดน้ำเปล่าจืด ๆ หาอะไรดับร้อนดีล่ะ ช่วงเที่ยง ๆ อย่างนี้ นึกขึ้นได้ว่าเคยเดินตลาดนัดไปเจอวุ้นมะพร้าว เคยลองซื้อมากินมันก็ชื่นใจดีเหมือนกันแฮะ กรอบ ๆ กรุบ ๆเคี้ยวมันดีเหลือเกิน แต่กินแป๊บเดียวหมดละยังไม่ทันไรเลย และแล้วก็ผุดไอเดียขึ้นมาในทันที ว่าเฮ้ย!! มาลองทำ "วุ้นมะพร้าว" กินเองดีกว่า... จะอร่อยหรือเปล่าน่ะ??.. อีกเรื่องนึงนะ "เน้นปริมาณไว้ก่อน" 555... ว่าแล้วก็หาส่วนผสมก่อนเลยครับ

เครดิตภาพจาก pixabay ภาพโดย joeclub_ake


วัตถุดิบที่ใช้

1. มะพร้าวอ่อน 2 ลูก

2. ผงวุ้น 25 กรัม 1 ซอง

3. น้ำตาลทราย ครึ่งกิโลกรัม

4. น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง

วิธีทำ 

1. เฉาะมะพร้าวแล้วนำน้ำแยกไว้ ขูดเอาเนื้อมะพร้าวออกให้หมด ผมเสียดายเลยขูดถึงกะลาบอกเลย

2. นำผงวุ้นไปแช่น้ำให้ผงวุ้นอิ่มตัวเต็มที่แล้วพักไว้

3. นำน้ำเปล่าเทรวมกับน้ำมะพร้าวที่แยกไว้ ตั้งไฟปานกลาง พอเดือดเอาเนื้อมะพร้าวที่ขูดไว้ใส่ลงไป ขั้นตอนนี้ต้องระวังนะครับ น้ำร้อนอาจกระเด็นโดนหน้าโดนตาได้ แนะนำให้ใส่แว่นเป็นการเซฟตี้

4. เติมน้ำตาลลงไปทั้งหมด (ไม่ต้องกลัวหวานครับเพราะหวานแน่นอน 555) เคี่ยวต่อไปอีกหน่อยให้เนื้อมะพร้าวเริ่มอ่อน ๆ

เครดิตภาพถ่ายโดย SPiRiTiO


5. ต่อไปนำผงวุ้นที่แช่น้ำไว้ใส่ลงไป แล้วคนช้า ๆ ไปทางเดียวกัน เคี่ยวต่อไปสักครู่จนรู้สึกว่าน้ำมะพร้าวของเราเริ่มจะหนืด ๆ แสดงว่าเริ่มใช้ได้แล้ว

6. ปิดไฟ ยกออกมาตั้งพักไว้สักครู่ ให้น้ำมะพร้าวของเราเริ่มอุ่น ๆ เตรียมภาชนะที่จะใส่ แล้วนำมากรอกลงไป ในรูปผมลงทุนไปซื้อถ้วยมาใส่จะได้ให้ความรู้สึกว่าเราซื้อเค้ามา 555 

เครดิตภาพถ่ายโดย SPiRiTiO


พอกรอกเสร็จแล้วก็รอจน "วุ้นมะพร้าว" ของเราเย็น แล้วค่อยนำไปแช่ในตู้เย็นครับ เราก็จะได้ "วุ้นมะพร้าวแบบบ้าน ๆ" เน้นปริมาณ อย่างที่ต้องการ การทำวุ้นมะพร้าวก็เสร็จแล้วครับ อยากจะบอกว่า มันช่างง่ายซะเหลือเกิน อยากกินเมื่อไร ก็หยิบออกมากินได้เลย ชื่นใจ ผมแนะนำว่าถ้าใครไม่ชอบหวานมากก็ลด "น้ำตาล" ลงได้ครับ

5 ไอเทมที่สาว ๆ ขาดไม่ได้ เวลาออกนอกบ้าน

เครดิตภาพปกจาก pexels.com โดย juan mendez

สาวมั่นอย่างเรา ๆ เวลาจะออกนอกบ้านแต่ละที แต่ละคนต่างก็มีสไตล์แตกต่างกันไป แต่ก่อนออก จะมีไอเทมที่ขาดไม่ได้เลย ที่จะต้องหยิบฉวยออกไปด้วยทุกครั้ง เรียกว่าเป็น Gadget ประจำตัว ของคุณสาว ๆ เพื่อให้รองรับทุกสถานการณ์ ไม่ว่าวันนั้นคุณจะแต่งตัวแบบธรรมดา เสื้อยืด กางเกงยีนส์ แต่ถ้ามีไอเทม 5 อย่างนี้ ก็มั่นใจได้เลยว่าคุณจะมีความมั่นใจในการแต่งตัวขึ้นได้เป็นกอง ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย

เครดิตภาพจาก pixabay โดย StockSnap

1. แว่นตาเก๋ ๆ 

อาจจะเป็นแว่นตาแฟชั่นสวย ๆ แว่นทรงเท่ห์ ๆ หรือแว่นที่มีรูปทรงแปลก ๆ ที่เข้ากับทรงหน้าของเรา ก็จะสามารถช่วยให้ลุคของคุณ ดูดีมีระดับขึ้นมาเป็นกองเลย ใครว่าสาวแว่นไม่สวย ๆ นะขอบอก ทำชายใจละลายมาหลายคนแล้ว

เครดิตภาพจาก pixabay โดย Free-Photos

2. หมวกทรงสวย ๆ 

เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่สำคัญ นอกจากจะใส่เพื่อความสวยงาม และความมั่นใจแล้ว ข้อสำคัญคือมันสามารถกันแดดได้ดีอีกด้วย ไม่ต้องกลัวหัวร้อนอีกต่อไป สวยแล้วยังสตรองด้วยนะเออ

เครดิตภาพจาก pixabay โดย StockSnap

3. กระเป๋าถือ สะพาย หรือเป้ 

Gatget นี้ เป็นอะไรที่ขาดไม่ได้เลยเรียกว่าถ้าไม่มีมัน ฉันจะไม่ออกไปไหนเด็ดขาด เป็นเสมือนคลังมหาสมบัติ ในกระเป๋าใบนี้จะมีทุกอย่างที่คุณต้องการ และกระเป๋าใบสวย ๆ ก็ยังทำให้เราดูดี มีระดับ และถ้าอยากจะถ่ายรูปให้ออกมาดูดีมีสไตล์ เจ้ากระเป๋าใบนี้แหละ ตอบโจทย์ความต้องการได้เป็นอย่างดี

เครดิตภาพจาก pixabay โดย Free-Photos

4. รองเท้าคู่ใจสไตล์เก๋

สำหรับสาวเท่ห์ควรมีติดรถไว้เลย ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าผ้าใบ หรือรองเท้าลำลอง เวลาไปเจอชุดใหม่ ๆ เรียกว่า มิกซ์แอนด์แมทช์ กันได้เดี๋ยวนั้นเลย เพิ่มความมั่นใจขึ้นมาได้อีกมากโข

เครดิตภาพจาก pixabay โดย AdoreBeautyNZ

5. ครีมกันแดด

สิ่งสำคัญอีกอย่าง ที่ขาดไม่ได้เลย สำหรับผู้หญิงอย่างเรา ๆ ก็คือ "ครีมกันแดด" ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า แดดเมืองไทยมันโหดร้ายขนาดไหน เผลอยืนกลางแจ้งแป้บเดียว ก็เตรียมฌาปนกิจผิวคุณได้เลย


เป็นยังไงกันบ้างคะ กับ 5 ไอเทมที่สาว ๆ จะขาดไม่ได้เลย เวลาจะออกไปไหนมาไหนตรงใจกันบ้างหรือเปล่า บางครั้งไอเทมแต่ละอย่างก็สามารถช่วยเราให้มั่นใจ ขึ้นมาได้จริง ๆ ถ้ายังไม่มั่นใจ จะลองหยิบเสื้อคลุมคูล ๆ ซักตัว อาจจะเป็นเสื้อแคนดิแกน หรือเสื้อยีนส์เท่ห์ ๆ ติดไม้ติดมือออกมาด้วยก็ได้ไม่ว่ากันสุดท้ายนี้ ขอขอบคุณภาพประกอบสวย ๆ จาก pixabay ไว้ในที่นี้ด้วยค่ะ

เลิกบุหรี่ยังไงให้ได้ผล แบบฉบับ SPiRiTio

เครดิตภาพปกจาก pixabay โดย HansMartinPaul

ถ้าจะถามว่าคนเรา "สูบบุหรี่" ไปทำไม? ทุกคนก็คงจะมีหลายเหตุผลสำหรับตัวเอง บ้างก็สูบเพื่อความเท่ห์ ไม่มีอะไรทำ อยูู่เฉย ๆ แล้วมันคันปาก หรือถ้าจะเอาแบบตรง ๆ เลย ก็คือ เห็นคนรอบข้างสูบแล้วมันรู้สึก "อยากสูบ" บ้าง หรือบางคนเห็นคนในครอบครัวสูบ มันก็เลยกลายเป็นความเคยชิน กลายเป็นเรื่องปกติ อย่างเด็กที่เกิดในครอบครัวที่มีคนสูบบุหรี่ พอโตขึ้นมาก็มักจะสูบตามสมาชิกในครอบครัว ข้ออ้างของคนสูบบุหรี่หลายคนก็จะบอกว่า เวลานั่งคุยกันถ้าได้สูบบุหรี่แล้วมันได้อรรถรส คุยสนุก

แล้วผลเสียในการสูบบุหรี่มันมีอะไรบ้าง? ผมว่าก็เยอะนะ อย่างเช่น อันดับแรกเลย กลิ่นตัวแรง ปากเหม็น เสียสุขภาพ คนรอบข้างไม่ค่อยอยากเข้าใกล้ เพราะเหม็นบุหรี่จากเรา เปลืองเงิน เพราะเราไม่ได้ผลิตเองต้องซื้อเค้ามา ซองนึงก็ราคาไม่ใช่น้อย ๆ กระเป๋าแฟ่บเลยทีเดียว

เครดิตภาพจาก pixabayโดย RyanMcGuire

ผมคิดว่า "ผลเสียที่สำคัญที่สุด ก็คือ เรื่องสุขภาพนี่แหละครับ" ทุกคนก็คงจะรู้ ๆ กันอยู่ว่าบุหรี่มันนำมาซึ่ง "มะเร็งปอด" ยิ่งสูบร่างกายก็ยิ่งแย่ลงไปทุกวัน ความรู้สึกอยากสูบก็มากขึ้น ๆ จนหยุดสูบไม่ได้ซักที ตั้งใจว่าจะเลิก จะหยุดสูบ แต่ก็กลับมาสูบใหม่ทุกที เป็นวัฐจักรอยู่อย่างนี้

กระผม "นายSPiRiTiO" ก็เคยอยู่ในวัฏสงสารนี้มาก่อน แถมติดหนักซะด้วย จนคิดว่าจะเลิกไม่ได้ สูบจนป่วย แต่ก็ยังสูบ ถึงขนาดที่ว่า "มีเงินอยู่ในกระเป๋าไม่ได้ต้องเอาไปซื้อบุหรี่ ข้าวไม่กินก็ได้ไม่เป็นไร" แต่ผมก็ยังผ่านวิกฤตการณ์นั้นมาได้ วันนี้ก็เลยอยากจะมาเสนอ "แนวทางการเลิกบุหรี่ แบบฉบับผมเอง" เพื่อเป็นแนวทางให้เพื่อน ๆ ที่ติดบุหรี่แบบไม่มีทางออก จะได้เลิกสูบบุหรี่กันได้ซะทีครับ ว่าแล้วก็มาเริ่มขั้นตอนการ "เลิกบุหรี่" ไปด้วยกันครับ

เครดิตภาพจาก pixabayโดย PublicDomainPictures

1. ตั้งปณิธานอันแน่วแน่สูงสุด อันดับแรกถามหัวใจตัวเองก่อนครับ ว่าคุณอยากเลิกจริงหรือเปล่า เลิกทำไม เลิกเพื่อใคร เลิกแล้วได้อะไร คิดดี ๆ ก่อนที่จะลงมือทำ เพราะข้อนี้สำคัญที่สุด ถ้าคุณตอบตัวเองไม่ได้ก็ไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะทำต่อไป

2. สูบบุหรี่ให้มากที่สุดก่อนเลิก อันนี้เรื่องจริงครับ!! ไม่ได้พูดเล่น ผมทำมาแล้ว ผมตั้งใจไว้เลยว่าจะเลิกบุหรี่พรุ่งนี้เช้า ตื่นเช้ามาผมจะไม่นึกถึงมันอีกต่อไป ฉะนั้นวันนี้ขอจัดให้เต็มที่ก่อน อยากสูบบุหรี่อะไรยี่ห้อไหนให้จัดเต็ม ซื้อมาให้ครบ สูบแบบมวนต่อมวนได้ยิ่งดี ผมสูบถึงเที่ยงคืนของวันนั้น หมดไปหลายซองเหมือนกันครับ ถือซะว่าเป็นการเลี้ยงส่งบุหรี่ อะไรที่เราทำซ้ำไปซ้ำมามาก ๆ เราจะรู้สึกเบื่อไปเองครับ ผมขอย้ำนะครับว่านี่เป็นวิธีของผม

3. ทิ้งอุปกรณ์เกี่ยวกับบุหรี่ให้หมด เน้นว่าทิ้งให้หมด ไม่ต้องใจดีเอาไปให้เพื่อนนะครับ ไม่งั้นเราอาจจะตามไปสูบกับเพื่อนต่อ ข้อนี้ทำหลังจากที่เราตื่นเช้าขึ้นมา ที่เราสูบจนพอแล้วนั่นแหละ กระบวนการนี้เรียกว่าหักดิบ ถ้าใจไม่แข็งพอคุณก็จะไม่สามารถผ่านขั้นตอนนี้ไปได้ แต่สำหรับผมผ่านแบบฉลุย ๆ เพราะเราตั้งใจมาแล้ว

เครดิตภาพจาก pixabay โดย guvo59

4. อย่าไปอยู่ใกล้คนสูบบุหรี่ มันจะทำให้เราอยากบุหรี่ เลิกไม่ได้ คนสูบบุหรี่ได้กลิ่นบุหรี่แล้วจะรู้สึกหอม หลายคนตายตรงนี้แหล่ะ ถึงเราจะไม่สูบแต่ถ้ายังไปวนเวียน ๆ อยู่ในกลุ่มผู้สูบ ก็อาจทำให้เราแพ้ใจตัวเอง กลับไปสูบอีกครั้งโดยปริยาย อาจจะห่างเพื่อน ๆ บ้างในช่วงนี้ ต้องบอกให้เพื่อนเข้าใจ

5. หากิจกรรมมาทดแทนช่วงเวลาที่เคยสูบบุหรี่ เราจะสูบบุหรี่ช่วงรับประทานข้าวเสร็จ นั่งคุยกับเพื่อน เวลาว่าง ๆ ไม่มีอะไรทำ ช่วงนี้แหละเราจะอยากบุหรี่มาก ๆ เหงื่อเราจะออกบ่อยเนื่องด้วยความอยากบุหรี่ วิธีของผม คือ จะพกหมากฝรั่ง เคี้ยวตลอดไม่ให้ปากว่าง หาอะไรกินเยอะ ๆ ออกไปเล่นกีฬา เล่นดนตรี หาความบันเทิงอย่างอื่นทำ ช่วงนี้เป็นช่วงหักดิบจริงๆ อาการจะเป็นอยู่อย่างนี้ประมาณ 1 สัปดาห์ ความอยากบุหรี่จะค่อย ๆ ลดลง ร่างกายจะเริ่มมีเรี่ยวมีแรง เพราะกำลังขับสารนิโคตินออกจากร่างกาย ถ้าคุณใกล้จะเลิกบุหรี่ได้จะมีอาการเหม็นบุหรี่อย่างแรง แทนที่จะหอม นั่นแสดงว่าเราใกล้ถึงจุดสำเร็จแล้วครับ

6. ต้องชนะใจตัวเอง ข้อสุดท้ายสำคัญมาก ต้องไม่คิดกลับไปสูบอีก แม้ว่าเราจะมีอารมณ์เครียด ท้อแท้ ผิดหวัง หรืออะไรก็แล้วแต่ ต้องไม่นึกถึงบุหรี่เด็ดขาด อาจจะทดแทนด้วยพฤติกรรมอย่างอื่น เช่น เครียดมากออกไปเดินเซลฟี่ ถ่ายรูปสวย ๆ เดินถนนคนเดิน กินชาบู ช็อปปิ้งหารางวัลให้ตัวเอง หลังจากเลิกบุหรี่ได้

เครดิตภาพจาก pixabay โดย sasint

เป็นยังไงบ้างครับ สำหรับแนวทางการเลิกบุหรี่ของผม นาย SPiRiTiO จะว่าง่ายก็ง่าย...จะว่ายากก็ยาก อยู่ที่ตัวคุณแล้วหล่ะ สุขภาพคุณ ๆ ต้องรักษาเอง อย่าปล่อยให้เราป่วยจนรักษาไม่ได้ เลิกบุหรี่วันนี้เพื่อตัวเราเองในอนาคต ใครจะไปรู้ความสำเร็จเล็ก ๆ ที่เราชนะใจตัวเองในการเลิกบุหรี่ อาจจะเป็นแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ให้เราเริ่มทำในสิ่งที่ใหญ่กว่าจนประสบความสำเร็จในชีวิตได้ครับ

4 แอพที่ทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้น

เครดิตภาพปกจาก pixabay โดย DariuszSankowski

ทุกวันนี้คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า โทรศัพท์หรือสมาร์ทโฟน กลายเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกายคนเราไปเรียบร้อยแล้ว และกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้ เพราะมันสามารถทำให้ชีวิตของเรา สะดวกสบายขึ้นอย่างมาก วันนี้เลยจะมานำเสนอเกี่ยวกับแอพพลิเคชั่นที่ทำให้ชีวิตของเรา ง่ายขึ้นกว่าเมื่อก่อนอย่างไร แบบไหนบ้าง ไปดูกันครับ

เครดิตภาพจาก pixabay โดย PhotoMIX-Company

1. แอพ Google

โปรแกรม Search Engine ยอดฮิตติดลมบนของเรา ที่พอคิดอะไรไม่ออกต้องถามพี่ goo เป็นแอพหลักในมือถือแอนดรอยด์ ที่คนใช้กันมากที่สุด ทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นมาก แต่ก่อนสงสัยอะไรก็ไม่รู้จะไปหาที่ไหน แต่ตอนนี้สบายเลยครับ ไม่ว่าจะหาอะไรพี่แกเจอทุกอย่างจริง ๆ ไม่เชื่อลองดู

เครดิตภาพจาก pixabay โดย mohamed_hassan

2. แอพ internet banking

แอพธนาคารทั้งหลายแหล่นั่นแหละครับ มีเกือบจะทุกเจ้าแล้วมั้ง แต่ละเจ้าก็แข่งขันกันพัฒนาแอพของตัวเอง ให้มีความสามารถเพิ่มขึ้นเรื่อยๆผลประโยชน์ก็มาตกที่คนใช้อย่างเราๆนี่แหละ แต่ก่อนที่ยังไม่มีแอพพวกนี้ เวลาจะฝากเงิน ถอนเงิน หรือโอนเงิน ก็ต้องเดินทางไปที่ธนาคารอย่างเดียว เสียเวลา เสียน้ำมันรถ ต้องไปจับบัตรคิว รอทำรายการ พอมีแอพ internet banking มาทำให้ชีวิตง่ายขึ้นเลย ไม่ต้องเสียเวลาไปต่อคิวอีกต่อไป  อยากจะโอนเงิน ก็ทำได้เลย หรือจะจ่ายค่าอื่นๆอีกจิปาถะ ก็กดในมือถือได้เลย ทำให้เรามีเวลาไปทำอย่างอื่นอีก สบาย

เครดิตภาพจาก pixabay โดย deepanker70

3. แอพแผนที่

อันนี้สะดวกอย่างมาก สมัยก่อนเวลาจะขับรถ ไม่ชินทาง ต้องพาคนที่รู้ทางไปด้วย ถึงจะไปถูก ที่ไหนไกลหน่อยก็ไม่กล้าไป เพราะกลัวหลงแอพนี้ ทำให้เราไม่ต้องไปรบกวนคนอื่น ให้ต้องมาคอยนำทางอีกต่อไป อยากไปไหนก็ได้ แค่มีอินเตอร์เน็ต จิ้มไปที่จุดหมายปลายทาง เราก็เดินทางได้อย่างสบายแล้วครับ แถมยังสามารถวางแผนการเดินทางได้ ว่าเราจะไปถึงเมื่อไหร่ จุดพักรถอยู่ตรงไหน ทำให้เราไม่พลาดนัดหมายที่สำคัญๆ ตามที่เรากำหนดไว้ ง่ายใช่มั้ยล่ะ

เครดิตภาพจาก pixabay โดย ReaxionLab

4. แอพ shopping

จะดีแค่ไหนถ้าเราไม่ต้องออกไปนอกบ้าน เดินให้เมื่อยตุ้ม ตามตลาดนัด หรือที่ไหนๆ เปลืองน้ำมันรถ ร้อนแดด อีกต่อไป ความคิดนี้เลยมีคนพัฒนาทำแอพแบบนี้ขึ้นมา เพื่อตอบสนองคนรักความสบายทั้งหลาย แล้วแอพพวกนี้ก็ตอบโจทย์คนอย่างเราๆ จริงๆ อยากซื้ออะไร หาอะไรก็ได้หมด เลือกซื้อสินค้าได้อย่างสบาย ไม่ต้องกลัวแม่ค้ามาคอยถามว่าสนใจชิ้นไหน ไม่ต้องต่อราคา เดี๋ยวเค้าก็มีช่วงโปรโมชั่นให้เอง  การจ่ายเงินก็หลากหลาย ทั้งเก็บปลายทาง บัตรเครดิต สั่งปุ้บ ของมาส่งถึงหน้าบ้าน สะดวกสบาย ทำให้ชีวิตของเราง่ายขึ้นจริงๆ

ทุกวันนี้โลกมันไปไกลจนเราอาจจะตามไม่ทัน หลายๆอย่างถูกพัฒนาขึ้นเพื่อความสะดวกสบายของมนุษย์ ก็ขอให้เพื่อนๆใช้เทคโนโลยีให้เป็น ใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อวิถีชีวิตของตนเองและผู้อื่น ไม่ใช้ไปในทางที่ผิด วันนี้กระผม SPiRiTiO ขอตัวไปใช้แอพก่อน ว่าจะไปเที่ยวซักหน่อย แล้วเจอกันบทความหน้านะครับ วันนี้ ลาไปก่อนครับ

วันที่ 1 ก.ย.67 เวลา 15.40 น. ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุบริเวณถนนข้างโรงงาน เซ้าท์อีสท์วู้ด

วันที่ 1 ก.ย.67 เวลา 15.40 น. ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุบริเวณถนนข้างโรงงาน เซ้าท์อีสท์วู้ด หมู่ 14 ต.กระแสบน อ.แกลง จ.ระยอง ออกตรวจ...